skip to Main Content

ทะเบียนทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา  ปี พ.ศ. 2564

มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

 

สาขา/ประเภท ชื่อมรดกทางวัฒนธรรม ความสำคัญ ภาพถ่าย
1. สาขาวรรณกรรมพื้นบ้านและภาษาตำนานพื้นบ้าน

 

 

ตำนานเขาสาปยา  (สรรพยา)

 

  กรมส่งเสริมวัฒนธรรมประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.2562
ตามตานานเขาสรรพยาที่ปรากฏชื่ออยูในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งเปนบทพระราชนิพนธของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลัย รัชกาลที่ ๒ มีความเชื่อกันวานาจะเปนเขาสรรพยาในเขตสรรพยานั่นเอง เลากันวา เมื่อพระลักษมณรบกับกุมภกรรณและเสียทีถูกหอกโมกขศักดิ์ พิเภกไดกราบทูลพระรามใหทรงทราบถึงฤทธิ์ของหอกและยาที่จะแกไข พระรามจึงมีพระบรมราชโองการใหหนุมานไปหา สมุนไพรชื่อสังกรณีตรีชวามาทายารักษา หนุมานไดเหาะไปที่เขาหลวงแตไมรูจักสังกรณีตรีชวา จึงรองถามหา เมื่อถามอยูเชิงเขาไดยินขานรับอยูบนยอดเขา เมื่อถามบนยอดเขาก็ไดยินขานรับอยูเชิงเขา หนุมานบันดาลโทสะพอไดยินขานรับอยูบนยอดเขาก็หักกลางเขาแบกเหาะไปไดสักหนอยก็บิเขาสวนหนึ่งทิ้งไป สวนที่หักทิ้งไปกลายเปนเขาขยายในเขตอาเภอเมืองชัยนาทปจจุบัน ขณะที่เหาะรูสึกกระหายน้าเปนกาลัง และเห็นบึงใหญอยูกลางทางจึงแวะเอาเขาวางลงริมบึง แลววักน้าตอนตะวันตกเฉียงใตของบึงขึ้นดื่ม ทาใหบึงบริเวณนั้นลึกกวาบริเวณอื่น เนื่องจาก บริเวณบึง เปนเลน เขาที่หนุมานวางไวจึงยุบลงดินจนติดแนน เมื่อดื่มน้าเสร็จจึงยกเขาไมขึ้น
    แตบางทานวา เมื่อหนุมานกระหายน้านั้น ไดเอาเขาวางลงบนดินแลวเดินไปขอน้าเด็กเลี้ยงควายดื่ม เด็กเลี้ยงควายนอกจากจะไมใหน้าแลวยังหลอกล้อเลนอีกดวย หนุมานเกิดโทสะเดินกลับที่เขาโดยไมไดดื่มน้า แตบางทานวา หนุมานเดินไปดื่มน้าที่แมน้า เจาพระยา ทางเดินไปและกลับกลายเปนลาคลองซึ่งอยูขางวัดโบสถ(ปจจุบันเหลือแตซากเจดีย) ตอมาภายหลังจึงเรียกคลองนี้วา “บางโบสถ” เมื่อหนุมานดื่มน้าแลว กลับมายกเขาไมขึ้นจึงเรียก “สังกรณีตรีชวา” อยางคราวที่แลว แลวหักเอาเขาสรรพยาดานทิศเหนือ เขาสรรพยาดานทิศเหนือจึงลาดลง กอนจากไปหนุมานจึง วาบนเขานี้มีสรรพยารักษาโรคไดทุกชนิดแตคนที่นี้ใจจืด ขอแคน้าก็ไมใหกินเลยสาปไว“ คนที่เกิดที่สรรพยาไมสามารถใชยานี้รักษาโรคได ”และสลัดขนเปนตนละมานเพื่อปองกันคนขึ้นไปหายาบนเขา แลวหนุมานก็หักยอดเขาไป แตยอดเขานั้นเล็กหนุมานจึงคอนแลวนาไปวางไวที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งเรียกวา “เขาสมอคอน” ปจจุบันนี้อยูในเขตลพบุรี เมื่อหนุมานไดสาปไวณ เขาที่ตนยกมา แลวชาวบานจึงเรียกเขานี้วา “ เขาสาปยา ” ตอมาภายหลัง เรียกเปนสรรพยา ( สับ–พะ-ยา ) สวนบึงสรรพยาที่หนุมานวักน้าดื่มนั้นตอมาแลงและตื้นเขินลงเหลือบางสวน มีชื่อ เรียกตอมาวา“บึงอรพิม”
 

การเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 ทรงประทับแรม ณ บ้านสรรพยา ถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 (ร.ศ.120) การเสด็จครั้งนี้เป็นการเสด็จเยี่ยมราษฎรอย่างเป็นทางการ โดยเรือพระที่นั่งเก๋ง มีเรือกลไฟลากจูงออกท่าบางปะอิน มีจุดหมายปลายทางที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2544 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จมาถึงพลับพลาที่ประทับบ้านสรรพยาเวลาค่ำ และทรงแจกเหรียญเสมาที่ระลึกแก่ข้าราชการและราษฎรในขณะนั้น พระองค์ประทับแรมที่บ้านสรรพยา 1 คืน

ครั้งที่ 2 (ร.ศ.125) การเสด็จประพาสเมืองสระบุรี นมัสการพระพุทธบาท แล้วขึ้นตามแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านอ่างทอง สิงห์บุรี สรรพยา มโนรมย์ ชัยนาท ปากน้ำโพ นครสวรรค์ ไปถึงกำแพงเพชร ทรงเสด็จถึงอำเภอสรรพยา เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2449 กระบวนเรือจอดที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงประทับแรม 1 คืน

 

ประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น การเสด็จเปิดเขื่อนเจ้าพระยาของรัชกาลที่    9       ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2498 พระบาทสมเด็จ   พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จทอดพระเนตรการก่อสร้างเขื่อนเจ้าพระยา

ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2500 พระบาทสมเด็จ    พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9  ทรงทำพิธิเปิดเขื่อนเจ้าพระยา สร้างความปลื้มปิติแก่พสกนิกรในพื้นที่ รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงพร้อมใจกันมารับเสด็จเป็นจำนวนมาก ครั้งนั้นจะเป็นครั้งที่มีผู้มารวมตัวกันที่เขื่อนเจ้าพระยาเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์

 

 

เพลงพื้นบ้านรำมะนา       การแสดงพื้นบ้านรำรำมะนา ถือเป็นการแสดงที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดชัยนาท โดยการรำรำมะนานั้น แต่เดิมมาจากการเล่นเพลงโทน ซึ่งเป็นการร้องการประกอบการตีโทน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 ต่อมาชาวบ้านคิดว่าไม่มีความสนุกเท่าที่ควร จึงเปลี่ยนเครื่องดนตรีจากโทนมาเป็นรำมะนา และคิดเนื้อร้องท่ารำประกอบการแสดง ทำให้ได้ความสนุกสนานมากขึ้น การแสดงรำมะนาเป็นการแสดงที่มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง หนึ่งวงจะประกอบด้วย 12 คู่ ส่วนใหญ่ใช้ในการแสดงในวันนักขัตฤกษ์ และงานประเพณีต่าง ๆ

 

 

 

2. สาขาศิลปะการแสดงดนตรีและเพลงร้อง

 

เพลงฉ่อย    เป็นเพลงพื้นเมืองที่มีการแสดงท่าทางและการร้องคล้ายลำตัด  คำร้องของเนื้อเพลงจะสนุกทะลึ่งทะเล้น โดยคิดเนื้อเพลงสดๆ ต่อเนื้อเพลงโดยไม่ได้เรียนจากที่ใด คิดเนื้อเพลงร้องกันเอง ปัจจุบันมีบุคคลที่ร้องได้คือ นางประจำ  สิงห์ทอง  ท่านมีอายุ 81 ปี (ณ พ.ศ.2565) บ้านอยู่หมู่ ๖ บ้านใต้วัดราษฎร์ และนางบุญสม      นกนคร อยู่หมู่ ๗ บ้านอ้อย ร้องเพลงฉ่อย เพลงอีแซว            เพลงเกี่ยวข้าว

 

 

 

 

 

 

 

 

งานประเพณีอัฏฐมีบูชา        วันอัฏฐมีบูชา เป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ตามพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ ป่าสาละ เมืองกุสินารา ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เจ้ามัลลกษัตริย์ ผู้ครองนครกุสินารา ได้ทำพิธีสักการะบูชาพระบรมศพพระพุทธองค์หลังจากเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานเป็นเวลา ๗ วัน ครั้น ถึงวันที่ ๘ ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ จึงได้อัญเชิญพระบรมศพไปถวายพระเพลิง ณ มกุฏพันธนเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง วันนี้เอง จึงเรียกว่า “วันอัฐมีบูชา” นับเป็นวันที่ชาวพุทธมีความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากต้องสูญเสีย พระบรมสรีระแห่งองค์พระบรมศาสดา ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันแรม ๘ ค่ำ แห่งเดือนวิสาขะ (เดือน ๖) เวียนมาถึง วันอัฏฐมีบูชา เวียนมาบรรจบในแต่ละปี พุทธศาสนิกชนจึงพร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาขึ้น โดยการประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจำลอง และเรียกวันนี้ว่า “วันอัฏฐมีบูชา” เพื่อระลึกถึงพระพุทธคุณ ประเพณีวันอัฏฐมีบูชา หรือวันการถวายพระเพลิงพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ในปัจจุบัน ได้เลือนหายไปคงเหลือปฏิบัติสืบทอดมาเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย

ในปี 2555 เทศบาลตำบลสรรพยาร่วมกับชมราฟื้นฟูตลาดเก่าสรรพยา จึงได้ร่วมกันจัดงาน “เล่าขานตำนานเมืองสาปยา (สรรพยา) อัฏฐมีบูชารำลึก” ณ วัดสรรพยาวัฒนาราม ขึ้นเป็นครั้งแรก กิจกรรมภายในงานจะมีการจัดแสงสีเสียงเพื่อระลึกถึง        วันอัฏฐมีบูชา มีการแสดงโขน  การแสดงประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชน ประชาชน จำนวนมาก และได้จัดสืบต่อกันมามากกว่า ๑๐ ปีแล้ว เพื่อเป็นการสืบสานและสืบทอดให้เป็นงานประเพณีท้องถิ่นสำคัญของชาวอำเภอสรรพยา

 

 

3. สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และงานเทศกาลประเพณีเกี่ยวกับศาสนา

 

 

 

 

งานประเพณี แห่เทียนพรรษา        งานแห่เทียนพรรษาเป็นประเพณีปฏิบัติของชาวพุทธที่ได้กระทำมาแต่ครั้งพุทธกาล เหตุที่ทำให้เกิดประเพณีเพราะสมัยก่อน มีภิกษุได้เดินไปเหยียบย่ำข้าวกล้าในนาของชาวบ้านทำให้ได้รับความเดือนดร้อน ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้อนุญาตให้ภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษาที่วัดเป็นเวลา 3 เดือน คือในช่วงวันแรมหนึ่งค่ำเดือนแปด ถึงวันขึ้นสิบค่ำเดือนสิบ

ชุมชนสรรพยายังคงรักษาประเพณีการหล่อเทียนจำนำพรรษาด้วยขี้ผึ้ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตนเฉลียวฉลาดมีไหวพริบปฏิภาณประดุจขี้ผึ้งที่ใช้ทำเทียนที่จากรังผึ้ง และแห่เทียนไปถวายวัดเพื่อจุดบูชาในช่วงจำพรรษา นอกจากเทียนแล้วยังมีเครื่องไทยทาน และผ้าอาบน้ำฝน โดยปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี

 

 

 

 

 

 

งานตักบาตรเทโวโรหะนะ      ตักบาตรเทโว หรือตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์  ในเวลาเช้าวันแรม 1 ค่ำ       เดือน 11 หลังจากที่พระองค์ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน ความสำคัญของวันเทโวโรหณะ เป็นวันที่มีการทำบุญตักบาตรที่พิเศษวันหนึ่ง กล่าวคือ ในพรรษาหนึ่งพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แสดงพระอภิธรรมโปรด พระมารดา และทรงจำพรรษาที่นั้น พอออกพรรษาก็เสด็จลงจากเทวโลกนั้นมายังโลกมนุษย์ กล่าวกันว่า ในวันนี้ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ คือ เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน จึงเรียกวันนี้อีกชื่อหนึ่งว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก” คือ เปิดให้เห็น กันทั้ง 3 โลกนั้นเอง

ในวันนี้ชาวบ้านจะจัดเตรียมอาหารเพื่อตักบาตรเป็นพิเศษในวันนี้ คือ ข้าวต้มมัด และ ข้าวต้มลูกโยน นำไปร่วมกิจกรรมในวัดประจำชุมชนหรือวัดที่อยู่ใกล้บ้าน โดยวัดบางวัดอาจจะจำลองสถานการณ์วันที่ พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกชั้นดาวดึงส์ คือ ประชาชนจะนั่งหรือยืนสองฝั่งทางลงจากอุโบสถ หรือศาลา ให้พระสงฆ์เดินเข้าแถวเรียงลำดับรับบาตรตรงกลาง โดยมีมัคนายก เดินอัญเชิญพระพุทธรูปนำหน้าแถวพระสงฆ์

 

งานประเพณี
ตรุษสงกรานต์
  เป็นมรดกภูมิปัญญาของไทย ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึง การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของไทย เดิมทีวันที่จัดสงกรานต์นี้นั้นจะมีการคำนวณทางดาราศาสตร์ แต่ในปัจจุบันได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน คือ ตั้งแต่ 13 – 15 เมษายน ของทุกปี กิจกรรมวันสงกรานต์จะมีการทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตนเอง อีกทั้งยังเป็นการอุทิศส่วนกุศลนั้นให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไป และก็จะมีการก่อเจดีย์ทรายอันเป็นประเพณีที่สำคัญในวันสงกรานต์อีกด้วย  การสรงน้ำพระ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด ซึ่งในบางที่ก็จะมีการจัดให้สรงน้ำพระสงฆ์เพิ่มเติม เพื่อจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุข  การบังสุกุลอัฐิ สำหรับเถ้ากระดูกของญาติผู้ใหญ่ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว มักทำที่เก็บเป็นลักษณะของเจดีย์ จากนั้นจะนิมนต์พระไปบังสุกุล  การรดน้ำผู้ใหญ่ คือการที่เราไปอวยพรผู้ใหญ่ใที่ห้ความเคารพนับถือ  และการปล่อยนกปล่อยปลา ถือว่าการล้างบาปที่เราได้ทำไว้ เป็นการสะเดาะเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นดี มีแต่ความสุข ความสบายในวันขึ้นปีใหม่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประเพณีเกี่ยวกับเทศกาล งานประเพณีเผาข้าวหลาม งานบุญเดือนสาม     วันเพ็ญเดือน 3 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา นอกจากกิจกรรมเข้าวัด ฟังธรรม เจริญสมาธิภาวนา และเวียนเทียนตามแบบฉบับชาวไทยพุทธทั่วไปแล้วพี่น้องชาวสรรพยายังมีประเพณีพิเศษที่เรียกว่าทำบุญเผาข้าวหลาม โดยชาวบ้านเกือบทุกหลังคาเรือนในอดีตจะนำข้าวเหนียวซึ่งมีกลิ่นหอมโดยธรรมชาติมาหุงในกระบอกไม้ไผ่ จะได้เป็นข้าวหลามสำหรับนำไปถวายพระที่วัดเนื่องใน

วันมาฆบูชานั่นเอง  หลังเสร็จพิธีสงฆ์ก็จะนำพวงมาลัยไปไหว้บูชาศาลเจ้าพ่อเสือประจำหมู่บ้าน พร้อมกับหักตอกจำนวนเท่ากับสมาชิกในครอบครัว เรียกกันว่า “การหักตอกไถโทษตัว” ด้วยเชื่อว่าจะเป็นการกำจัดสิ่งไม่ดีต่างๆ ออกไปจากชีวิต และนำสิ่งดีๆ เข้ามาสู่สมาชิกทุกคนในครอบครัว

 

 

 

 

 

ประเพณีเกี่ยวกับ     วงจรชีวิต การไว้ผมโก๊ะและแกละ     ความเชื่อเรื่องการไว้ผมโก๊ะและแกละ ในสมัยอดีตเด็กๆ มีการโกนจุกจะทำเป็นงานบุญ สมัยก่อนเด็กๆ เจ็บไข้ได้ป่วย หรือ เลี้ยงยากจะให้ไว้ผมโก๊ะ ผมแกละ โดยพ่อและแม่จะนำดินมาปั้นเป็นตุ๊กตา ทำจุก ทำโก๊ะ ทำแกละ สามแกละ เรียกโก๊ะ โดยจะให้เด็กเลือกจับตุ๊กตาและจะไว้ผมตามนั้น

ปัจจุบันยังมีประเพณีนี้คงไว้อยู่ โดยใช้ดินน้ำมันปั้นแทนดินเหนียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประเพณีเกี่ยวกับการทำมาหากิน เรือผีหลอก      เป็นวิธีหนึ่งในการจับปลาแบบโบราณที่ยังคงเหลืออยู่ มีวิธีการจับปลาที่คือ จะมีเรือที่ทำขึ้นพิเศษโดยกาบเรือด้านหนึ่งมีกระดานที่ทาสีขาว และผู้จับปลาจะพายเรือยามค่ำคืนโดยเฉพาะคืนเดือนมืด และนำไฟส่องลงไปในแม่น้ำ และเมื่อปลาเห็นลำแสงจากไฟฉายและเรือที่มีกระดานสีขาว จะเป็นสิ่งที่ทำให้ปลาตกใจ จนกระโดดขึ้นเรือเองและบนเรือจะมีตาข่ายกั้นเพื่อไม่ให้ปลาตกน้ำหรือหนีไปได้ ปลาที่เรือผีหลอกนั้นสามารถจับได้หลายชนิดในอดีต อาทิ ปลาสร้อย ปลาเนื้ออ่อน และปลาเบี้ยว เป็นต้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

4. สาขาความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล สมุนไพรสังกรณ๊ ตรีชวา      สังกรณีตรีชวา เป็นสมุนไพรที่ขึ้นอยู่มากมายบนเขาสรรพยา และเป็นชื่อของพรรณไม้ที่ถูกกล่าวถึงใน พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 เรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกกุมภกรรณ  ซึ่งกุมภกรรณได้พุ่งหอกโมกขศักดิ์ ซึ่งเป็นหอกศักดิ์สิทธิ์ถูกพระลักษมณ์สลบไป พิเภกจึงทูลพระรามว่าหากร่างพระลักษณ์ต้องแสงอาทิตย์จะตายต้องให้หนุมานไปเก็บ สังกรณีตรีชวา ที่เขาสรรพยา มาทำเป็นยาพอก จึงจะรักษาหาย

สังกรณี มี 2 ชนิด คือ

สังกรณีใบมัน เป็นไม้ประดับพุ่มเตี้ยกว่า 1 เมตร มี 2 ชนิด คือ ดอกสีแสดและสีส้ม ดอกมีความสวยงามสดใสอย่างมาก  มีประโยชน์ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ดับพิษไข้ แก้ไอใบ แก้กำเดา แก้ไข้หวัดใหญ่ แก้คออักเสบ

สังกรณี ดอกสีม่วง เป็นพันธุ์ไม้หายาก ลักษณะเป็นพุ่ม ที่ลำต้นไม่มีหนามแตกกิ่งก้านสาขารอบๆ ต้นมากมาย ออกดอกเป็นช่ออยู่ตามง่ามใบ ใช้ปรุงเป็นยาแก้ร้อนใน ดับพิษไข้ทั้งปวง ลดความร้อนในร่างกาย แก้กระหายน้ำและกินเป็นยาถอนพิษไข้กาฬ

 

ตรีชวา  ลักษณะเป็นไม้พุ่มสูง ประมาณ 0.5-1 เมตร ใบเดี่ยว ปลายและโคนแหลม ดอกสีขาวหรือม่วงอ่อน ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง แต่ละดอกมีใบประดับรูปหัวใจ สีขาวลายเขียว 3 ใบ กลีบดอกเป็นหลอดเล็กปลายแยกเป็น 2 ส่วน

การกระจายพันธุ์  พบได้ทั่วไปตามภูมิภาคของไทย  ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน สรรพคุณดับพิษโลหิต สมานแผล แก้ริดสีดวงทวาร ขับปัสสาวะ

ปัจจุบันเทศบาลตำบลสรรพยาได้ส่งเสริมให้มีการปลูกสังกรณีและตรีชวา เพื่อนำสารสกัดจากมาเป็นส่วนผสมของยาหม่องสมุนไพร  และ ผลิตชาตรีชวา เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรจำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยว

 

อาหารและโภชนาการ

 

ตาลโตนด      สรรพยาเป็นเมืองแห่งต้นตาล การทำตาลเป็นอาชีพเก่าแก่ของชาวสรรพยา และนับวันจะสูญหายไป  คนไทยคุ้นเคยกับน้ำตาลสดมาแต่โบราณ ถือเป็นความหวานจากธรรมชาติแท้ๆ  น้ำตาลสดเมื่อเก็บมาแล้ว จะแบ่งต้มขายเป็นน้ำตาลสดที่เหลือเคี่ยวจนงวดเพื่อทำน้ำตาลปีก ส่วนลอนตาลสดมีให้ชิมช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน และจาวตาลเชื่อมต้องรอประมาณเดือนตุลาคมเท่านั้น นอกจากนี้ชาวบ้านยังดัดแปลงและนำส่วนต่าง ๆ ของตาลมาเป็นวัตถุดิบในการนำมาประกอบอาหารคาวหวานได้อีกหลายชนิด เช่น ปลาร้าหัวตาล  ขนมตาล เม็ดขนุนจาวตาล ฯลฯ

 

 

 

 


การแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย หมอกระดูกและเส้น    “หมอหวังบาทเดียว” หรือ นายสมหวัง  เม่นนิ่ม  อายุ 81 ปี ต.บางหลวง  อ.สรรพยา มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคกระดูกต่าง ๆ และเส้น หรืออาการแขนขาหักได้ มากว่า 40 -50 ปี โดยใช้น้ำมนต์และน้ำมัน ซึ่งเป็นการแพทย์แผนโบราณที่ ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่สมัยบวชเป็นพระ

สามารถรักษาโรค ผู้ที่มารับการรักษาส่วนใหญ่เป็นคนยากคนจน จึงคิดค่าครู 1 บาทเท่านั้น

 

  ผงสีฟันสมุนไพร
เมืองสาปยา
    ผงสีฟันสมุนไพรถูกพัฒนาขึ้นจากตำรายาโบราณเป็นสูตรเฉพาะของ นางเง็กลั้ง  จันทรวรรณกูร จากชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา มานานกว่า 80 ปี ด้วยส่วนผสมของเกลือ พิมเสน การบูร สารส้ม เมนทอล ผสานด้วยคุณค่าของส่วนผสมจากสมุนไพรและแร่ธาตุ 100% สรรพคุณ : แก้รำมะนาด เหงือกเป็นแผล รากฟันแข็งแรง ฟันขาวสะอาด ขจัดกลิ่นปาก ลดอาการปวดบวม ลดปัญหาการเกิดโรคในช่องปาก

ปัจจุบันเป็นสินค้าขายดีประจำชุมชนตลาดเก่าสรรพยา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

5. สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิมงานตัดกระดาษ งานตัดพวงมโหตร
ม่านบังตา สายมะลิเลื้อย และลูกโลก
       ในปี 2560 คณะครู ร.ร.ทต.สรรพยา ลงพื้นที่เก็บข้อมูล   ภูมิปัญญาท้องถิ่น พบว่าปู่บุญลือ เสือเปีย อายุ 94 ปี ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา ซึ่งเป็นผู้มีฝีมือละเอียดปราณีตสร้างสรรค์ลวดลายหลากหลายสามารถเปลี่ยนกระดาษว่าวแผ่นบาง ให้กลายเป็นเครื่องห้อยรูปทรงสวยงามแปลกตา ต่อมาในปี 2561 เทศบาลได้จัดอบรมวิธีการตัดพวงมโหตร ม่านบังตา สายมะลิเลื้อย และลูกโลก จากปู่บุญลือ ก่อนท่านเสียชีวิตไม่ถึงปี โดยมีนายวิสุทธิ์  พันธุ์หวาด  เป็นผู้ที่สนใจรับการถ่ายทอดโดยตรง และได้นำมาสอนต่อให้กับคนในชุมชน นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติที่สนใจ

ปี 2565 ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดชัยนาทไปเผยแพร่วัฒนธรรมในงานยลรุกขมรดกของแผ่นดินวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง

 


6. สาขาการเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวกีฬาพื้นบ้าน ตะกร้อลอดบ่วง     การเล่นตะกร้อลอดบ่วง เป็นกีฬาพื้นบ้านของไทยอย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัย ที่ประชาชนคนใดทำผิดกฎหมาย จะถูกทำโทษโดยการจับยัดใส่ลูกตะกร้อที่มีขนาดใหญ่มากและให้ช้างเตะไทยเราจึงดัดแปลงโดยการศึกษาจากการเตะของช้างและนำท่าเตะแต่ละท่ามาประยุกต์เป็นท่าเตะตะกร้อแต่ละท่าในปัจจุบัน

ตะกร้อลอดบ่วงนี้นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพ ทั้งในด้านร่างกายและสติปัญญาอีกด้วย เพราะการเล่นนอกจากจะใช้พลังในการเล่น ยังต้องมีสัมพันธ์กับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น สายตา แขน ขา ศีรษะ และสติปัญญาอีกด้วย สามารถที่จะเล่นกันได้ทั่วไป ถือเป็นการนันทนาการพักผ่อนของคนไทย ในพื้นที่ตำบลหาดอาษา ยังมีการกีฬาประเภทนี้ และจะถูกจัดขึ้นในงานประเพณีสำคัญต่างๆ เช่น  งานวัด (งานประจำปี)  หรือในช่วงเทศกาลสงกรานต์  งานประเพณีต่าง ๆ

 

ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว มวยไทย      ในอดีตมวยไทยไม่ได้ ใส่นวม จะชกกันด้วยมือเปล่า หรือใช้ผ้าดิบ พันมือ นักมวยจึงใช้ชั้นเชิง ในการต่อสู้มวยไทย มากกว่าการใช้พละกำลัง จึงเกิดท่ามวย หรือที่เรียกว่าแม่ไม้มวยไทยมากมาย

พระสมุห์ยงยุทธ นริสฺสโร หรือ “อาจารย์ ต่าย”  เจ้าอาวาสวัดสะแก ตำบลโพนางดำตก ได้อนุรักษ์ “มวยไทย” ไว้เป็นมรดกพื้นบ้านสรรพยา ด้วยการตั้ง “ค่ายมวยศิษย์อาจารย์ต่าย” ขึ้นภายในวัด รับสมัครและได้ฝึกซ้อมเด็ก/เยาวชนที่มีความตั้งใจหรือขาดโอกาสทั้งในและนอกพื้นที่ เพื่อนำมาอบรมสั่งสอน และฝึกวิชาแม่ไม้มวยไทย ตั้งแต่เล็ก ๆ พร้อมให้โอกาสทางการศึกษา ส่งเสริมให้มีรายได้จากการชกมวยสมัครเล่น และสามารถพัฒนาเป็นนักมวยอาชีพที่มีชื่อเสียงระดับประเทศหลายคน  โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลสรรพยาที่ได้มอบเวทีผ้าใบ และเทศบาลตำบลโพนางดำตก นายนิติรุจน์ มุขเฉลิมวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำตก ได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์สำหรับซ้อม และจัดแข่งขันชกมวยประเภทต่าง ๆ  เป็นประจำทุกปี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

thThai